น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี บำรุงสมอง ลดไขมันในเลือด ลดการอักเสบของข้อ
฿192 – ฿512
เติมโอเมก้า 3 ให้ร่างกายได้ทุกวัน
น้ำมันปลาคุณภาพจากกิฟฟารีน สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกที่มี EPA และ DHA ครบ มี 2 ขนาดให้เลือก:
- กิฟฟารีน น้ำมันปลา 500 มก. ผสมวิตามิน อี
- กิฟฟารีน น้ำมันปลา 1,000 มก. ผสมวิตามิน อี
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลเพิ่มเติม
- บทวิจารณ์ (2)
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
คำอธิบาย
น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี
Giffarine Fish Oil Mixed Vitamin E
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี น้ำมันปลาคุณภาพ สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกที่มี EPA และ DHA ครบถ้วน ช่วยเติมเต็มโอเมก้า 3 ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่มีความจำเป็นต่อระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการสมองในทุกช่วงวัย ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงโรคร้าย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง
น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี มีให้เลือก 2 ขนาด:
น้ำมันปลา 500 มก. ผสมวิตามิน อี (*เม็ดเล็ก กลืนง่าย) ประกอบด้วย:
- กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 90 มก.
- กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 60 มก.
น้ำมันปลา 1,000 มก. ผสมวิตามิน อี ประกอบด้วย:
- กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 180 มก.
- กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก.
ถาม-ตอบ ข้อข้องใจเกี่ยวกับน้ำมันปลา โดย พ.ต.ท.นพ มั่น อุดมพาณิชย์
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันปลา
น้ำมันปลา เป็นน้ำมันที่สกัดได้มาจากปลา มีส่วนประกอบสำคัญคือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่จำเป็นต่อระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย และร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ต้องได้รับจากการบริโภคอาหารเท่านั้น โดยโอเมก้า-3 ประกอบด้วยกรดไขมันที่สำคัญ 2 ชนิด คือ EPA และ DHA
กรดไขมัน EPA (Eicosapentaenoic Acid)
- มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้
- ป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือด ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองอุดตัน
- ช่วยลดอาการปวดอักเสบต่างๆ บรรเทาอาการข้อเสื่อม รวมทั้งข้ออักเสบรูมาตอยด์ในคนสูงอายุได้
กรดไขมัน DHA (Docosahexaenoic Acid)
- ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง การเรียนรู้ และความจำ ป้องกันความเสื่อมของสมอง
- ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้สะดวกขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์สมอง
- ช่วยพัฒนาด้านการมองเห็น ป้องกันความเสื่อมของระบบสายตา จึงมีประโยชน์ในผู้ที่ทำงานใช้สายตาหนักเป็นประจำ
ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า น้ำมันปลา คือหนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และ ลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน
จากการศึกษาพบว่า น้ำมันปลาสามารถลดระดับของไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ถึง 19-24% นอกจากนี้น้ำมันปลายังช่วยเพิ่มปริมาณของ HDL (High Density Lipoprotein) ซึ่งจะทำให้มีการเก็บคอเลสเตอรอลในเลือดและผนังหลอดเลือดกลับสู่ตับ และเปลี่ยนเป็นน้ำดีเพื่อขับออกนอกร่างกาย
- จากการทดลองพบว่าน้ำมันปลาสามารถใช้เป็นอาหารเสริมร่วมกับยาที่ใช้อยู่เพื่อลดการบวมและอักเสบของข้อได้
- น้ำมันปลาช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน (Coronary Heart Disease) โดยกลไกของการจับตัวของเกร็ดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนคล่องขึ้น
- สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้บางชนิด
- ช่วยลดความเครียด
ในประเทศญี่ปุ่น ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผลงานวิจัยแสดงผลอย่างชัดเจนว่าสาร DHA ในน้ำมันปลานั้นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง ช่วยบำรุงสมองให้ทำงานดีขึ้น และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท
คำถามเกี่ยวกับน้ำมันปลา
A: โอเมก้า 3 และ 6 เป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนทั้งคู่ โดย:
- โอเมก้า 3 มักพบอยู่ในอาหารจำพวกปลาและอาหารทะเล ทำหน้าที่ช่วยยับยั้งการอักเสบ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ป้องกันโรคหัวใจ ป้งอกันมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม
- โอเมก้า 6 มักพบอยู่ในน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบ และอาจเกิดโรคร้ายต่างๆตามมา
A: แหล่งของโอเมก้า 3 มีอยู่ 2 แหล่ง ดังนี้
- โอเมก้า 3 จากปลาทะเล ให้สารสำคัญในรูปของ EPA และ DHA
- โอเมก้า 3 จากพืช เช่น น้ำมันถั่วดาวอินา น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น ที่ให้สารสำคัญในรูปของ ALA แนะนำในผู้ที่แพ้ปลา หรืออาหารทะเล
โดย ALA จะต้องถูกเปลี่ยนเป็น EPA และ DHA ก่อน จึงจะดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นโอเมก้า 3 จากปลาทะเลจะถูกดูดซึมและนำไปใช้ได้ไวกว่า
A: น้ำมันปลาช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) และลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้
A: ยาต้านอักเสบ จะไปยับยั้งขั้นตอนสุดท้ายของการอักเสบ แต่น้ำมันปลาจะไปยับยั้งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นการยับยั้งที่ต้นเหตุ จึงมีความปลอดภัยและได้ผลดีกว่า สามารถทานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องหยุดเหมือนยาต้านอักเสบ
A: ประโยชน์อื่นๆของโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา มีดังนี้
- ลดภาวะซึมเศร้าได้ โดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายเซโรโทนิน (Serotonin)
- ป้องกันและรักษาโรคกล้ามเนื้อถดถอยอ่อนแรง (Sarcopenia) ในกลุ่มผู้สูงอายุได้
- ช่วยให้มีการเรียนรู้และความทรงจำที่ดีขึ้น และมีประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพการทำงานของสมองในผู้สูงอายุ
A: ประโยชน์ด้านอื่นๆของน้ำมันปลามีดังนี้
- ช่วยให้คิดไวขึ้น ความจำดี สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้า
- ป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอรไรด์ และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- ช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี
- ป้องกันหลอดเลือดอุดตันจากการจับตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและสมองได้
- ช่วยลดการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดการอักเสบและบวมของข้อได้
A: น้ำมันปลาให้โอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถสร้างขี้นเองได้ ดังนั้นจึงสามารถรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่างๆ
Q: ในแต่ละช่วงวัยต้องทานน้ำมันปลาเท่าไหร่ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน?
ช่วงอายุ | EPA + DHA (mg) | Fish Oil (mg) | คิดเป็นแคปซูล |
---|---|---|---|
2 – 4 ปี | 100 – 150 | 300 – 500 | 500 มก. 1 แคปซูล |
4 – 6 ปี | 150 – 200 | 500 – 670 | 500 มก. 1 แคปซูล |
6 – 10 ปี | 200 – 250 | 670 – 830 | 500 มก. 1- 2 แคปซูล |
มากกว่า 10 ปี | 250 – 2,000* | 830 – 6,670 | 1,000 มก. 1 – 7 แคปซูล |
A: ข้อห้าม ข้อควรระวัง ของการทานน้ำมันปลามีดังนี้:
- ควรหลีกเลี่ยงการเสริมน้ำมันปลาในผู้ป่วยที่ได้ยาต้านเกร็ดเลือด (เช่น แอสไพริน) และยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น วาร์ฟาริน)
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเล มักแพ้โปรตีนจากอาหารจึงสามารถทานน้ำมันปลาได้ แต่หากมีความผิดปกติ เช่นผื่นผิวหนัง คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง ก็ต้องหยุดทาน
A: เราควรพิจารณาจาก:
- น้ำมันปลาที่ดีต้องมี DHA และ EPA ในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ DHA:EPA = 1:2 หรือ 2:3
- ใน 1,000 มก. ควรมี DHA + EPA มากกว่า 200 มก.
- น้ำมันปลาต้องนำเข้าจากประเทศที่เป็นแหล่งของปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง
- มีคุณภาพตามมาตรฐานของเภสัชและมาตรฐาน GOED (Global Organization for EPA and DHA Omega-3)
- ต้องผลิตจากโรงงานที่เชื่อถือได้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, BRP, และ ISO 9001
น้ำมันปลา 500 มก. ผสมวิตามิน อี
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล: |
น้ำมันปลาจากปลาทะเล 68.49% ดี-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซิเทต คอนเซนเทรต 0.28% |
ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 500 มก. ประกอบด้วย: กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 90 มก. กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 60 มก. กรดไขมันอิ่มตัว 145 มก. |
เลขที่ใบจดแจ้ง:13-1-03337-5-0005
น้ำมันปลา 1,000 มก. ผสมวิตามิน อี
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล: |
น้ำมันปลาจากปลาทะเล 68.49% ดี-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซิเทต คอนเซนเทรต 0.28% |
ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1,000 มก. ประกอบด้วย: กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 180 มก. กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก. กรดไขมันอิ่มตัว 290 มก. |
เลขที่ใบจดแจ้ง:13-1-03337-5-0004
คำเตือน:อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
ผลิตภัณฑ์ น้ำมันปลา กิฟฟารีน
สินค้า น้ำมันปลา กิฟฟารีน ทั้งหมด
น้ำมันปลา กิฟฟารีน 4 เอ็กซ์ น้ำมันปลา ขนาด 1,000 มก. ประกอบด้วย ดีเอชเอ 500 มก. มากกว่าสูตรปกติถึง 4 เท่า
กิฟฟารีน อควา เทียร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา บาย อัลกาเทรียม (30 แคปซูล)
ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อมูลเพิ่มเติม
ตัวเลือก | น้ำมันปลา 500 มก. 50 แคปซูล, น้ำมันปลา 500 มก. 90 แคปซูล, น้ำมันปลา 1,000 มก. 50 แคปซูล, น้ำมันปลา 1,000 มก. 90 แคปซูล |
---|
บทวิจารณ์ (2)
น้ำมันปลา กิฟฟารีน ผสมวิตามิน อี บำรุงสมอง ลดไขมันในเลือด ลดการอักเสบของข้อ จาก 2 รีวิว
เพิ่มบทวิจารณ์
You must be logged in to post a review.
ดนุนันท์ –
น้ำมันปลาดีต่อสุขภาพครับ
Admin –
ขอบพระคุณนะคะ
อรรถพล –
สั่งทานประจำคับ ได้ของไวมาก
Admin –
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ